ประวัติความเป็นมาของสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 9
ความเป็นมาของ สสว
*พ.ศ. 2545 สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10 ชื่อย่อ สสว.10 ก่อตั้งมาพร้อมกับการปฏิรูประบบราชการ ปรับปรุงระบบราชการ มีฐานะเทียบเท่ากองหรือสำนัก เป็นราชการบริหารส่วนกลางที่ตั้งอยู่ในภูมิภาค มีพื้นที่รับผิดชอบ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน ประกอบด้วย จังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แม่ฮ่องสอน เชียงราย พะเยา แพร่ และจังหวัดน่าน สังกัดกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มีบทบาทหน้าที่และอำนาจ
1) วิเคราะห์และจัดทำแผนการพัฒนาสังคมและสวัสดิการสังคมในระดับกลุ่มจังหวัดและกลุ่มเป้าหมาย รวมทั้งการติดตามประเมินผลการดำเนินงานตามแผนของหน่วยงานปฏิบัติในพื้นที่รับผิดชอบ
2) สนับสนุนด้านวิชาการเทคโนโลยีข้อมูลสารสนเทศให้คำปรึกษาแนะนำแก่หน่วยงานที่ให้บริการทุกกลุ่มเป้าหมายและพื้นที่ให้บริการในความรับผิดชอบของกระทรวง รวมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง องค์กรเอกชนและประชาชนในการพัฒนาสังคมและจัดระบบสวัสดิการสังคมเพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและสามารถพัฒนาตนเองได้อย่างยั่งยืน
3) ส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดระบบเครือข่ายของทุกภาคส่วนในการพัฒนาสังคม การจัดสวัสดิการสังคม และการคุ้มครองและพิทักษ์สิทธิของแต่ละกลุ่มเป้าหมาย
4) ปฏิบัติงานร่วมกับหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องหรือที่ได้รับมอบหมาย
5) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้มีคำสั่งที่ 11/2547 ลงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2547 แต่งตั้งให้ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1-12 ปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ช่วยผู้ตรวจราชการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
**พ.ศ. 2558 มีพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ 14) ให้ สสว.1-12 ไปสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ตามคำสั่งที่ 2107/2559 เรื่องแบ่งโครงสร้างภายในส่วนราชการ สำนักงานปลัดกระทรวง กำหนดให้ สสว.10 มีบทบาทหน้าที่และอำนาจ
1) พัฒนางานด้านวิชาการเกี่ยวกับการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ให้สอดคล้องกับพื้นที่และกลุ่มเป้าหมาย
2) ส่งเสริมและสนับสนุนงานด้านวิชาการ องค์ความรู้ ข้อมูลสารสนเทศ ให้คำปรึกษาแนะนำแก้หน่วยงานบริการทุกกลุ่มเป้าหมายในพืนที่ให้บริการในความรับผิดชอบของกระทรวง
3) ศึกษา วิเคราะห์ สถานการณ์และสภาพแวดล้อมเพื่อคาดการณ์แนวโน้มของสถานการณ์ทางสังคมและผลกระทบ รวมทั้งให้ข้อเสนอแนะการพัฒนาสังคมและจัดทำยุทธศาสตร์ในพื้นที่กลุ่มจังหวัด
4) สนับสนุนการนิเทศงาน ติดตามประเมินผลการดำเนินงานเชิงวิชาการตามนโยบายและภารกิจของกระทรวงในพื้นที่กลุ่มจังหวัด
5) ปฏิบัติงานร่วมกับหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องหรือที่ได้รับมอบหมาย
*** พ.ศ. 2563 กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้ปรับปรุงโครงสร้างการแบ่งส่วนราชการของสำนักงานปลัด โดยยุบ สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 2 คงไว้สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1 , 3-12 และให้เปลี่ยนชื่อจากสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10 เป็นสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 9 ตามคำสั่งสำนักงานปลัดกระทรวงที่ 164/2563 ลงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2563 ยังคงมีหน้าที่และอำนาจเหมือนเดิม
กฎกระทรวง แบ่งส่วนราชการสำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2563 ให้ยกเลิกความในข้อ 17 แห่งกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานปลัดกระทรวงกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พ.ศ. 2559 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “ข้อ 17 สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1 - 11 มีหน้าที่และอำนาจ ดังต่อไปนี้
(1) พัฒนางานด้านวิชาการเกี่ยวกับการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้สอดคล้องกับพื้นที่และกลุ่มเป้าหมาย
(2) ส่งเสริมและสนับสนุนงานด้านวิชาการ องค์ความรู้ ข้อมูลสารสนเทศ และให้คำปรึกษาแนะนำแก่หน่วยงานบริการทุกกลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ให้บริการในความรับผิดชอบของกระทรวง รวมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง องค์กรภาคเอกชนและประชาชน
(3) ศึกษา วิเคราะห์ สถานการณ์และสภาพแวดล้อม เพื่อคาดการณ์แนวโน้มของสถานการณ์ทางสังคมและผลกระทบ รวมทั้งให้ข้อเสนอแนะการพัฒนาสังคมและการจัดทำยุทธศาสตร์ในพื้นที่กลุ่มจังหวัด
(4) สนับสนุนการนิเทศงาน ติดตามประเมินผลการดำเนินงานเชิงวิชาการตามนโยบายและภารกิจของกระทรวง ในพื้นที่กลุ่มจังหวัด
(5) ปฏิบัติงานร่วมกับหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานของหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง หรือที่ปลัดกระทรวงมอบหมาย”
สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ หรือในชื่อย่อว่า "สสว." เป็นหน่วยงานส่วนกลางที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคโดยจัดตั้งตามกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ พ.ศ. 2545 มีฐานเทียบเท่ากอง หรือสำนัก มีจำนวน รวมทั้งสิ้น 12 แห่ง กระจายอยู่ทั่วทุกภาคของประเทศ จากนั้นมีคำสั่งจากสำนักปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่ 165/2563 เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2563 เรื่องการเปลี่ยนชื่อ สสว.1-12 เป็น สสว.1-11 และสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 10 เชียงใหม่ (เดิม) ได้เปลี่ยนเป็น สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 9 เชียงใหม่ และได้มีพื้นที่รับผิดชอบ สสว.1-11 ดังนี้
สสว.1 (ปทุมธานี) รับผิดชอบ 8 จังหวัด
(1) กรุงเทพมหานคร
(2) นนทบุรี
(3) นครนายก
(4) ปทุมธานี
(5) พระนครศรีอยุธยา
(6) สมุทรปราการ
(7) สระบุรี
(8 อ่างทอง
สสว.2 (ชลบุรี) รับผิดชอบ 7 จังหวัด
(1) จันทบุรี
(2) ฉะเชิงเทรา
(3) ชลบุรี
(4) ตราด
(5) ปราจีนบุรี
(6) ระยอง
(7) สระแก้ว
สสว.3 (นครปฐม) รับผิดชอบ 8 จังหวัด
(1) กาญจนบุรี
(2) นครปฐม
(3) ประจวบคีรีขันธ์
(4) เพชรบุรี
(5) สุพรรณบุรี
(6) ราชบุรี
(7) สมุทรสงคราม
(8) สมุทรสาคร
สสว.4 (นครราชสีมา) รับผิดชอบ 6 จังหวัด
(1) ชัยภูมิ
(2) นครราชสีมา
(3) บุรีรัมย์
(4) ยโสธร
(5) ศรีสะเกษ
(6) สุรินทร์
สสว.5 (ขอนแก่น) รับผิดชอบ 7 จังหวัด
(1) ขอนแก่น
(2) มหาสารคาม
(3) ร้อยเอ็ด
(4) เลย
(5) หนองบัวลำภู
(6) หนองคาย
(7) อุดรธานี
สสว.6 (กาฬสินธุ์) รับผิดชอบ 7 จังหวัด
(1) กาฬสินธุ์
(2) นครพนม
(3) บึงกาฬ
(4) มุกดาหาร
(5) สกลนคร
(6) อุบลราชธานี
(7) อำนาจเจริญ
สสว.7 (ลพบุรี) รับผิดชอบ 6 จังหวัด
(1) ชัยนาท
(2) นครสวรรค์
(3) พิจิตร
(4) ลพบุรี
(5) สิงห์บุรี
(6) อุทัยธานี
สสว.8 (อุตรดิตถ์) รับผิดชอบ 6 จังหวัด
(1) กำแพงเพชร
(2) ตาก
(3) พิษณุโลก
(4) เพชรบูรณ์
(5) สุโขทัย
(6) อุตรดิตถ์
สสว.9 (เชียงใหม่) รับผิดชอบ 8 จังหวัด
(1) เชียงใหม่
(2) เชียงราย
(3) น่าน
(4) พะเยา
(5) แพร่
(6) แม่ฮ่องสอน
(7) ลำปาง
(8) ลำพูน
สสว.10 (สุราษฎร์ธานี) รับผิดชอบ 7 จังหวัด
(1) กระบี่
(2) ชุมพร
(3) นครศรีธรรมราช
(4) พังงา
(5) ภูเก็ต
(6) ระนอง
(7) สุราษฎร์ธานี
สสว.11 (สงขลา) รับผิดชอบ 7 จังหวัด
(1) ตรัง
(2) นราธิวาส
(3) ปัตตานี
(4) พัทลุง
(5) ยะลา
(6) สงขลา
(7) สตูล